Investor Relations Info : ADVICE |
คาดกำไร 4Q67 ยังโตแรง YoY
. คาด ADVICE มีกำไรสุทธิ 4Q67 ที่ 52 ล้านบาท (-17% QoQ, +54% YoY) โดยกำไรที่ชะลอลง QoQ เพราะยอดขายลดลง จากผลของฤดูกาล ขณะที่มี ค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่สูงขึ้น ส่วนกำไรที่จะโตแรง YoY เพราะมีรายได้ยอดขายเพิ่มทุกช่องทาง บวกกับมีมาร์จิ้นที่สูงขึ้น
. หากกำไร4Q67 ออกมาอย่างคาด จะทำให้คาดการณ์ กำไรปี 2567ของเราที่ 250 ล้านบาท มี downside ราว 7% ทำให้เราต้องปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2567-68 ลงจากเดิมเฉลี่ย 7% เหลือ 232 ล้านบาท (+36% YoY) และ 304 ล้านบาท (+31% YoY) ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ลดลงจาก 8.70 บาท เหลือ 8.05 บาท (คงการอิง PER 16.4 เท่า) คงคำแนะนำ “Outperform” จากกำไร 4Q67 ที่ คาดจะออกมาโตแรง YoY อีกทั้งราคาหุ้นยังซื้อขายที่ PER ปี 2568เพียง10.4เท่า ถูกกว่าคู่แข่ง
คาดกำไร4Q67 ชะลอ QoQ แต่จะโตแรง YoY
. คาด ADVICE มีกำไรสุทธิ งวด 4Q67 ที่ 52 ล้านบาท (-17% QoQ, +54% YoY) โดยประเด็นสำคัญที่ ฉุดกำไร QoQ เพราะคาดรายได้ขายและบริการลดลงเหลือ 3.5 พันล้านบาท (-6% QoQ) จากผลของฤดูกาล ที่โดยปกติแล้วยอดขายของบริษัทใน 3Q จะเป็นช่วงที่มียอดขายสูงกว่าไตรมาสอื่นๆ บวกกับคาดจะมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร/ยอดขาย สูงขึ้นจาก 7.0% ในไตรมาสก่อน เป็น 7.8% จากทั้งการใช้งบการตลาดและค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงขึ้น หลังการเปิดสาขาที่ขายเฉพาะสินค้า Apple (Advice iStore) เพิ่มอีก 4 แห่ง
. แต่หากเทียบ YoY คาดกำไรในงวด 4Q67 จะโตได้แรง เพราะ
. 1) คาดรายได้จากการขายและบริการที่ เติบโตขึ้น 10% YoY จากทุกช่องทาง โดยช่องทางการค้าปลีก ยังเป็นช่องทางหลักที่ มีรายได้ 2.3 พันล้านบาท (+6% YoY) จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales GrowthSSSG) และยอดขายจากสาขาใหม่ โดยเฉพาะ Advice iStore ที่ มีเพิ่มเข้ามารวม 6 แห่ง (เริ่มเปิด 2 แห่ง ใน 3Q67 และเปิดเพิ่มอีก 4 แห่งใน 4Q67) ส่วนช่องทางค้าส่งคาดจะมีรายได้ 1.2 พันล้านบาท (+21% YoY) เพราะการขายส่งให้แฟรนไชส์ยังเพิ่มขึ้น สำหรับรายได้จากการให้บริการซ่อมสินค้า และบริการแก่ลูกค้าองค์กร ยังไม่มากนัก (29 ล้านบาท)
. 2) คาดอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ที่สูงขึ้น 9.4% ในงวด 4Q66 เป็น 9.6% เพราะหันได้รับส่วนลดการค้ามากขึ้นตามปริมาณสั่งซื้อ บวกกับการขายสินค้าโทรศัพท์มือถือพ่วงกับอุปกรณ์เสริม ซึ่งสร้างมาร์จิ้นให้สูง
คาดกำไรใน 1Q68โตได้ทั้ง QoQ และ YoY
. ฝ่ายวิจัยมองว่าแนวโน้มกำไรใน 1Q68 น่าจะโตได้ทั้ง QoQ และ YoY โดยมี ปัจจัยบวกสนับสนุนดังนี้
.
ปัจจัยที่คาดจะมีผลกระทบต่อกำไร 1Q68
. 1)ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย คือ
. - Easy E-receipt ที่มีผลช่วง 16 ม.ค. 68 –28 ก.พ.68 ซึ่งคาดจะเป็นผลบวกต่อยอดขายของ ADVICE ซึ่งมีราคาสูงอย่างคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ
. - การแจกเงิน 10,000 บาท (เฟส 2) ให้แก่ผู้สูงอายุราว 3 ล้านคน ในวันที่ 27 ม.ค. 68 ซึ่งคาดจะเป็นบวกต่อกำลังซื้อ และยอดขายของ ADVICE
. 2)ค่าย Samsung เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ (Samsung S25, S25 Ultra) ใน 1Q68 ซึ่งคาดจะช่วยเร่งยอดขายสินค้าในกลุ่ม Android ของ ADVICE
. 3)คาดอัตรากำไรขั้นต้นขยับสูงขึ้นได้ต่อ จากสัดส่วนที่จะเพิ่มขึ้นของการขายสินค้าประเภทอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ที่จะพ่วงการขายอุปกรณ์เสริม ซึ่งสร้างมาร์จิ้นสูงไปด้วย
. 4)ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร/ยอดขาย มีแนวโน้มลดลงจากในไตรมาสก่อนหน้า เพราะคาดจะใช้งบการตลาดที่น้อยลง
. 1) หลังหมดมาตรการ Easy E-receipt และการแจกเงิน 10,000 บาท แล้ว ยังไม่มีมาตรการอื่นๆจากภาครัฐมากระตุ้นการใช้จ่ายต่อในช่วงที่เหลือของ 1Q68 เพราะรัฐบาลมีกำหนดการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ในช่วง 2Q68ที่มา: สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส
ปรับประมาณการกำไรลง แต่ยังคงคำแนะนำ “Outperform”
. หากกำไรงวด 4Q67 ออกมาอย่างคาด จะทำให้คาดการณ์กำไรปี 2567 ของเรา ที่ 250 ล้านบาท มี downside ราว 7% เราจึงต้องปรับลดประมาณการกำไรปี 2567 –2568 ลงจากเดิมเฉลี่ยราว7% โดยการปรับลดยอดขายลง แต่ปรับเพิ่มอัตรามาร์จิ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มดำเนินงานปี 2567 ซึ่งทำให้กำไรสุทธิปี 2567 –2568 ปรับลดเหลือ 232 ล้านบาท (+36% YoY) และ 304 ล้านบาท (+31% YoY)
. ภายใต้ประมาณการใหม่ และคงการอิง PER ที่ 16.4 เท่า ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ปรับลดจาก 8.70 บาท เหลือ 8.05 บาท โดยเราคงคำแนะนำ “Outperform” สำหรับ ADVICE เนื่องจาก
. 1) ระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากกำไร 4Q67 ที่ คาดจะออกมาดี YoY และกำไรในระยะถัดไปใน 1Q68 ยังดูสดใส น่าจะโตได้ทั้ง QoQ และ YoY ซึ่งจะช่วยให้ภาพรวมกำไรทั้งปี 2568เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งที่ 32% YoY จากกำลังซื้อที่ดีขึ้น บวกกับการที่บริษัทมีแผนจะรุกขยายสาขา โดยเฉพาะในรูปแบบ Advice iStore เพิ่มอีกราว 20–25 แห่ง รวมเป็น 26 –31แห่ง
. 2) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PER ปี 2568 ที่ราว 10.4เท่า ซึ่งยังต่ำกว่ากลุ่มพาณิชย์ที่ ฝ่ายวิจัยศึกษาซึ่งซื้อขายที่ ราว 19.9เท่า และต่ำกว่า COM7 ที่ทำธุรกิจคล้ายกัน ซึ่งซื้อขายด้วย PER ปี 2568 ที่ ราว 16.0 เท่า แต่เราคาดการณ์การเติบโตของกำไรปี 2568 ที่ 17% ซึ่งต่ำกว่า ADVICE
ประเด็นความเสี่ยง
1. เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และกำลังซื้อที่ลดลง
2. ธุรกิจหลัก (ค้าปลีก) มี การแข่งขันในอุตสาหกรรมสูง
3. การแย่งลูกค้ากันเองของสาขาที่เปิดใกล้เคียงกัน
RESEARCH DIVISION
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
ปิยะธิดา สนธิสมบัติ
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 018160
เรียบเรียง โดย ประน้อม บุญร่วม |